“ก็บ้านกูมี” รถดัดแปลงแบบไทย ๆ สไตล์เจ๊ม้าทอย

รถกระบะเก่า ๆ สนิมเขรอะ อายุกว่า ๒๐ ปี ต่อเติมส่วนท้ายติดหลังคาให้กลายเป็นร้านค้าของชำหรือร้านกับข้าวเคลื่อนที่ วิ่งปุเลง ๆ เข้าไปตามหมู่บ้านชานเมืองหรือเขตก่อสร้าง สินค้าอาหารราคาย่อมเยา ส่งตรงถึงที่ คุณตาคุณยาย ลูกเด็กเล็กแดง หรือแม้แต่แรงงานรายวันก็สามารถออกมาหาซื้อกินกันได้ แถมยังมีเหลือเผื่อแผ่ไปถึงครอบครัว รถเร่ขายของ รถกับข้าว หรือร้านของชำเคลื่อนที่เหล่านี้ ไม่ใช่แค่เครื่องมือในการทำมาหากิน หากแต่เป็นวิถีชีวิตของคนจริง ๆ ในสังคมเรา

“รถเรียล ๆ ที่เคยเห็นในชีวิตจริงแบบนี้ ฝรั่งเขาไม่มีหรอกค่ะ พอไม่มีเขาก็ไม่ทำขาย เจ๊ก็เลยทำเอง”

“เจ๊ม้า” อดีตพ่อค้าขายรถของเล่นออนไลน์ที่นอกจากจะผันตัวมาเป็นเจ๊แล้ว ยังได้คิดและลงมือทำ ดัดแปลงรถของเล่นใหม่ให้กลายเป็นของสะสมสุดคลาสสิคที่ใคร ๆ เห็นก็ต้องทึ่ง ได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของผลงานตัวเอง

เพราะคนไทยช่างคิด ช่างสรรหา เพื่อที่จะตอบโจทย์ความต้องการของตัวเองก็เลยดัดแปลงรถกระบะที่มีอยู่ให้กลายเป็นเครื่องมือทำมาหากินที่เข้ากับวิถีแบบไทย ๆ มากที่สุด เจ๊ม้าเล่าให้ฟังด้วยความเพลิดเพลินว่า

“คนไทยก็คือคนไทยนะคะ อยากอยู่กันแบบสบาย ๆ น่ะค่ะ อย่างฝรั่งวันหยุดเขาถึงจะออกไปจ่ายกับข้าวตามห้าง ขนกลับมาใช้ทั้งอาทิตย์  แต่คนไทยไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ ชอบของใหม่ของสด แต่ขี้เกียจออกไปค่ะ รอรถกับข้าวค่ะ คนที่รอก็รอไป คนที่บริการเดี๋ยวก็ขับมา กับข้าวมาแล้วค่ะกับข้าว วิ่งกันหน้าตาตื่น บางคนไม่ไปไหนค่ะ รอค่ะสี่โมงเย็นเดี๋ยวรถจะมา ไปไหนไม่ได้ค่ะ ถ้าไม่ได้ซื้อกับข้าวรถกับข้าว เดี๋ยวสามีกลับมาไม่มีกับข้าวกิน เป็นเรื่องค่ะ ชีวิต ของเราแบบนี้ไทย ๆ ค่ะ”

ภาพจำรถเร่ขายกับข้าวของเจ๊ม้าได้สะท้อนมาสู่ผลงานการดัดแปลงรถจำลอง จากรถเหล็กใหม่ ๆ ที่โรงงานผลิตออกมาขายให้เด็กเล่น หรือเป็นของสะสม เจ๊ม้าตัดสินใจนำมาลอกสี ทำสี ดัดแปลง แต่งเติมคราบสนิมให้กลายเป็นรถเก่า หากแต่เก่าอย่างมีชีวิต มีคุณค่าความเป็นไทย และที่สำคัญมีมูลค่าที่สามารถสร้างรายได้เสริมให้กับเจ๊ม้าได้ตราบเท่าที่เจ๊ม้าขยันทำ บอกเลยว่าสั่งทำมาเยอะมากจนต้องจัดคิวแบ่งเวลาให้ดี เพราะเจ๊ม้ายังมีงานหลักอยู่

แต่กว่าที่จะแต่งรถได้อย่างที่เห็นนี้ เจ๊ม้าก็ใช้เวลาเรียนรู้ลองผิดลองถูกเยอะเหมือนกัน เริ่มต้นจากการเข้าไปในกลุ่มที่เขาแต่งรถของเล่น ครูพักลักจำบ้าง ขอความรู้เขาตรง ๆ บ้าง จากนั้นก็เข้ายูทูปเรียนรู้ด้วยตัวเอง โชคดีสิ่งที่อยากทำอยู่ในหัวเจ๊ม้าอยู่แล้ว รถแนววิถีชีวิตไทย ๆ รถเรียล ๆ อย่าง รถเร่ผัก รถกับข้าว รถขายของเก่า รถเร่หนังเร่คอนเสิร์ตลูกทุ่ง รอสองแถว รถกะป้อ รถของไทยที่เจ๊ม้าเห็นมาตั้งแต่เด็ก และยังไม่มีใครทำขาย คือเส้นทางของเจ๊ม้า

แม้จะเกิดและเติบโตที่กรุงเทพฯ เมื่อหลายสิบปีมาแล้ว แต่พ่อแม่ของเจ๊ม้าเป็นคนนครสวรรค์ จึงมีโอกาสใช้เวลาในเมืองปากน้ำโพพอ ๆ กับเมืองหลวง สมัยเด็ก ๆ มีโอกาสวิ่งตามรถเร่หนัง รถเร่คอนเสิร์ต นั่งรอรถกับข้าวกับแม่ที่บ้าน แต่ที่จำได้ติดตาคือ รถคอนเสิร์ตพี่เป้า สายัณห์ สัญญา  ตอนนั้นเจ๊เห็นรถพี่เป้ามา ก็วิ่งตามไปเพื่อที่จะไปดูคอนเสิร์ต จัดที่ไหนอะไรยังไง แล้วก็วิ่งไปบอกที่บ้าน พี่เป้ามา ๆ ไปดูคอนเสิร์ตกัน ปัจจุบันเจ๊ม้าสามารถเรียกความทรงจำดังกล่าวกลับมาในรูปแบบของรถจำลอง และไม่เพียงแค่รายละเอียดจากความทรงจำเท่านั้นเจ๊ม้ายังมอบชีวิตให้กับผลงานทุกชิ้นด้วย

 

 “รถแต่ละคันของเจ๊ ไม่เหมือนกันสักอย่าง ให้ทำอีกคันหนึ่งแบบนี้นะ ฟีลก็ไม่เหมือนกันสักครั้งนึงเลย ทำแต่ละคันฟีลไม่เหมือนกัน”

เมื่อเริ่มต้นลงมือทำรถ เจ๊ม้าสามารถใช้เวลาอยู่บนโต๊ะทำงานราว ๗-๘ ชั่วโมง ติดต่อกัน ในระหว่างนั้นก็จะนึกถึงรายละเอียดต่าง ๆ จากความทรงจำ รถที่เคยเห็นมีเสื่อนะ เขาเอาไว้ปูกินข้าวตอนพักวิ่ง ขวดเหล้ามีแอบ ๆ ไว้ได้ เพราะตอนนั้นยังไม่มีกฎหมายเมาไม่ขับ บางคันวิ่งกลางคืนก็ต้องมีหลอดไฟนีออน แต่ทำหรับคันที่เจ๊ม้ากำลังทำอยู่นี้ เป็นรถเร่คอนเสิร์ตพี่เป้า เจ๊ม้าเลือกที่จะประดับพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เข้าไปด้วย

 

“ครั้งนี้นะ ขณะที่ทำได้นึกถึง รัชกาลที่ ๙ อยากมีรูปติดไว้บนนี้ ซึ่งสมัยก่อนพ่อจะต้องอยู่ตรงเหนือที่สุด พี่เป้าร้องเพลงเกี่ยวกับพระเจ้าอยู่หัวซึ้งที่สุดตอนนั้น ก็เลยรู้สึกว่า จะนำพระบรมฉายาลักษณ์ ของท่านวางไว้บนนี้ ซึ่งรถสมัยนั้นก็มีแบบนี้จริง ๆ”

กล่าวได้ว่า รถของเจ๊ม้ามีองค์ประกอบสำคัญ ๓ อย่างที่ทำให้เกิดอัตลักษณ์มีคุณค่าที่ไม่เหมือนใคร ได้แก่ ๑ วิถีไทย ๆ ที่ชาติไหนก็ไม่มี ๒ ความมีชีวิตที่แฝงอยู่ในทุกองค์ประกอบของผลงาน และ ๓ วิญญาณของเจ๊ม้าที่ตั้งใจทำทุกผลงานอย่างสุดกำลังโดยใช้ทั้งความรู้สึกและความทรงจำของตัวเอง เจ๊ม้าแชร์เป้าหมายของตัวเองโยบอกกับเราว่า

“เจ๊อยากให้คนต่างประเทศเห็นว่า ของเรามีแบบนี้ ชีวิตคนไทยเป็นแบบนี้”

และถึงแม้เจ๊ม้าจะพูดติดตลกว่า “เจ๊ไม่เคยเรียนอะไรพวกนี้มาก่อนค่ะ ความรู้ต่ำ ความทะเยอทะยานสูง” แต่สิ่งที่เราเห็นจากผลงานตลอดจนตัวตนของเจ๊ม้า ก็ทำให้รู้สึกได้ว่าเจ๊ม้ามีของดีอยู่ในตัว มีความเป็นศิลปินและมีความเป็นไทย มีความสามารถสร้างสรรค์ผลงานที่น่าทึ่ง และพร้อมที่จะเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาตัวเอง นับเป็นต้นแบบของ #ไทยทำ คนไทยที่มีความสามารถ และกล้าลงมือทำ

 

#ไทยทำ #รถจำลอง #เจ๊ม้าทอย ดัดแปลงรถของเล่นให้กลายเป็นรถค้าขายแบบไทย ๆ

ติดตามผลงานหรือสั่งซื้อได้ที่ เฟสบุ๊คแฟนเพจ เจ๊ม้าToy

 

ส่งท้าย หลายคนคงสงสัยเจ๊ม้าเป็นหรือเปล่า?

เจ้าตัวเล่าว่า การเป็นผู้ชายบางครั้งก็ขายของยาก จะเชิญชวนให้คนมาซื้อของก็ลำบาก จะด่าคนที่ไม่โอนก็กลัวจะรุนแรง ในขณะที่พอสวมบุคลิกเจ๊แล้ว สนุกได้ ต่อล้อต่อเถียงได้ ที่สำคัญทวงลูกค้าได้โดยที่ลูกค้าไม่รู้สึกโกรธ นอกจากนี้การเป็นเจ๊ม้ายังทำให้คนรู้สึกสนุกสนาน ผ่อนคลาย ไม่เครียด ซึ่งอันนี้ก็เข้ากับลักษณะความเป็นไทย ๆ ด้วยเช่นกัน จนอาจกล่าวได้ว่า หากคนไทยดัดแปลงรถเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในการค้าขายแบบวิถีไทยได้แล้ว การเป็นเจ๊ม้าก็อาจเป็นการดัดแปลงตัวเองเพื่อนำไปสู่การปิดการขายอีกวิธีการหนึ่งด้วยเช่นกัน