[ไทยไฝว้โพล] ๕ ปี คสช. ประชาชน “ถูกใจ” หรือ “ไม่ถูกใจ”

นับจนถึงวันที่  คสช. หรือ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ก็ทำงานมาเป็นเวลา ๕ ปีแล้ว การเลือกตั้งก็ผ่านมาเข้าสู่เดือนที่สามแล้ว แต่รัฐบาลใหม่ก็ยังไม่มีสักที จน คสช. อยากจะร้องเพลง “อยู่ต่อเลยได้ไหม” กันแล้ว แต่นั่นก็ทำให้ทีมงาน Typeไทย อยากรู้ว่า สมาชิกของเราถูกใจกับการทำงานตลอด ๕ ปี ที่ผ่านมาของ คสช. แค่ไหน ด้วยความเกรงใจลุง ๆ เราก็เลยตั้งโพลไว้บนเพจเฟซบุ๊คที่เดียว หากไปตั้งโพลในเครือข่ายสื่อสังคมอื่น ๆ โดยเฉพาะยูทูปและทวิตเตอร์ ผลคงออกมาไม่น่ารับประทานมากกว่านี้

 

เนื่องจากประเด็นนี้ ค่อนข้างละเอียดอ่อน เอาเป็นว่าไปดูผลก่อนละกัน

๑๐ %๙๐ %

 

ผลคะแนน “ถูกใจ” เพียงแค่ ๑๐% คะแนนโหวตเทไปที่ “ไม่ถูกใจ” อย่างถล่มทลาย ๙๐% ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่กับผลที่ห่างขนาดนี้ เชื่อว่าถ้าไปโหวตในทวิตเตอร์คะแนนถูกใจก็อาจไม่สูงถึง ๑๐% ด้วยซ้ำ แต่ทำไมผลโหวต “ไม่ถูกใจ” ถึงสูงขนาดนี้ หากลุง ๆ คสช. พอจะเปิดใจรับฟังบ้างก็คงจะดีไม่น้อย เพราะมีหลายความคิดเห็นที่ลุง ๆ ควรฟัง

 

อย่างแรกเลยการที่คนโหวต “ไม่ถูกใจ” ไม่ได้แปลว่า คสช. ทำผิด แต่ส่วนใหญ่แล้วจะหมายถึงความผิดหวังของประชาชนที่มีต่อการทำงานของ คสช. ตอนลุง ๆ เข้ามี ประชาชนก็หวังไว้เยอะนะว่าจะเข้ามาแก้ไขปัญหาได้จริง

โดยคุณ Jo Tongta ก็ให้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่า “๕ ปีที่ผ่านมาคือล้มเหลว ตอนแรกชอบมาก คิดว่าเข้ามาจัดการประเทศหล่อ ๆ แค่ ปี สองปี แล้วจบแบบหล่อ ๆ ไปเลย แต่ตอนนี้คือ โคตรเกลียด” ทั้งยังได้ให้สาเหตุของความล้มเหลวไว้ด้วยดังนี้ “รัฐบาลใดไม่ส่งเสริมการท่องเที่ยว รัฐบาลนั้นล้มเหลว รัฐบาลใดไม่ส่งเสริมการส่งออก รัฐบาลนั้นล้มเหลว รัฐบาลใด ซื้อแต่อาวุธยุโธปกร โดยที่ ไม่คำนึงถึงเงินในคลัง ประเทศนั้นฉิบหายแน่นอน เค้าสู้กันด้วยเศรษฐกิจ เค้าไม่ได้สู้กันด้วยเรือดำน้ำ รถถัง หรือเครื่องบินรบ มีได้แค่พอดี มีได้แค่ป้องกันอานาธิปไตย์ เอาเงินไปพัฒนาสมองคนในประเทศ แล้วส่งไปแข่งกับเค้าสิ”

คุณ Thumb Muzikoka ก็ยังให้ความเห็นว่า ขอบคุณที่ช่วยทำรัฐประหารเพื่อลดความขัดแย้งตอนนั้น แต่พอเข้ามาก็ระเริงอำนาจจนคดโกงทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้องได้โดยไม่โดนตรวจสอบ แถมมีไม้กายสิทธิ์ ม.๔๔ อีกยิ่งแล้วใหญ่ คนเค้าเห็นกันหมดแล้วยังหน้าไม่อายด้วย”

นี่คือตัวอย่างที่ชัดเจนเลยว่าคนไทยคาดหวังกับการเข้ามาของ คสช. ว่าจะแก้ไขปัญหาได้จริง แต่สุดท้ายผลงานของ คสช. ก็ไม่ออกมาได้ตามที่คาดหวัง

 

ยังมีอีกหลายความเห็นที่แม้จะเห็นความดีของลุง ๆ แต่ก็กดถูกใจให้ไม่ได้ เช่น “ข้อดีแกก็มีแต่ข้อเสียแกเยอะกว่า”“โกรธคนใกล้ตัวลุงมากกว่า” และ  “ข้อดีมีเป็นร้อย ข้อเสียมีเป็นล้าน”

 

แต่ที่น่าจะเป็นข้อสรุปที่ดีที่สุกน่าจะเป็นความเห็นนี้ “ไม่กล้าคอมเม้นต์ห่าเหวไรเลย..กลัวติดคุก”

 

ถึงผลจะออกมาไม่สวยนักสำหรับ คสช. ตลอด ๕ ปีที่ผ่านมา แต่ก็อยากให้ลุง ๆ ได้รับฟังเสียงจริง ๆ จากประชาชน ไม่ใช่เพียงแค่คำอวยจากลูกน้องรอบข้าง เพราะความจริง และความคิดเห็นของประชาชนเป็นประโยชน์มากกว่าคำลวง ๆ กลวง ๆ  ของพวกเลียนาย ส่วนถ้าจะขอเวลาแก้ตัวเพิ่ม เชื่อว่าคนไทยคงพร้อมใจกันบอกว่า

“พอเถอะลุง วางมือแล้วให้คนหนุ่มคนสาวทำงานแทนเถอะ ลุงเหนื่อยมาพอแล้ว”