๔ บทเรียนสอนคนรุ่นใหม่จากชีวิตมหากวีกระฎุมพี “สุนทรภู่”

อนุสาวรีย์สุนทรภู่ที่ระยอง สุนทรภู่ถือปี่ข้างไหน?
เป็นคำถามความรู้แบบกวน ๆ เพราะที่อนุสาวรีย์สุนทรภู่นั้นไม่ได้ถือปี่ พระอภัยมณีซึ่งเป็นตัวละครเอกของสุนทรภู่ต่างหากที่ถือปี่

นอกจากการนำมาตั้งคำถามกวน ๆ แล้ว สุนทรภู่ หรือ พระสุนทรโวหาร (ภู่) ก็ยังมีคุณูปการกับคนไทยมาอย่างยาวนานจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งเรื่องหนึ่งที่คนส่วนใหญ่อาจจะไม่รู้ก็คือ “สีเสื้อมงคลประจำวัน” ที่แชร์ ๆ กัน และแปะไว้ที่ตู้เสื้อผ้ากันเนี่ย ก็มีที่มาจากบทกลอน “สวัสดิรักษา” ที่สุนทรภู่ได้แต่งไว้เป็นต้นทาง

ไม่เพียงแต่ผลงานวรรณคดีที่ยิ่งใหญ่ เทียบได้กับ วิลเลียม เชคสเปียร์ ของโลกตะวันตก แต่ชีวิตของสุนทรภู่เองก็เป็นแบบเรียนที่สำคัญสำหรับคนรุ่นปัจจุบันเช่นกัน ซึ่ง Typeไทย ได้ถอด ๔ บทเรียนสำคัญจากชีวิตสุนทรภู่ที่คนรุ่นใหม่ควรศึกษาไว้ดังนี้

๑. อย่าติดเหล้า

สุนทรภู่เองก็ไม่ต่างจากศิลปินในปัจจุบันที่ดื่มเหล้าแล้วมีอารมณ์สุนทรีย์ สามารถสร้างสรรค์งานชิ้นเอกได้หลายต่อหลายชิ้น แต่เหล้าก็เป็นดาบสองคมหากดื่มเกินพอดีหรือติดเหล้างอมแงม

ในระหว่างที่สุนทรภู่รับราชการในสมัยรัชกาลที่ ๒ เกิดเหตุการณ์กินเหล้าจนเมาแล้วอาละวาดทำร้ายญาติผู้ใหญ่ จนเป็นความต้องโทษติดคุกติดตาราง เคราะห์ดีที่เป็นคนมีความรู้ความสามารถที่เจ้านายทรงโปรดปรานใช้สอยจึงได้รับพระราชทานอภัยโทษในเวลาต่อมา

๒. ไม่ริเจ้าชู้ เป็นเพลย์บอยไปทั่ว

“…ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารัก สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป แต่เมาใจนี้ประจำทุกค่ำคืน…” หนึ่งในวรรคทองจากนิราศภูเขาทอง ที่หลายคนคุ้นเคย ทำให้รู้ว่าสุนทรภู่ในยุคนั้นก็ป๊อปไม่ใช่เล่น แต่ถึงว่าธรรมเนียมแต่เดิมผู้ชายสามารถมีได้หลายเมีย แต่ใช่ว่าจะไปเอาใครมาเป็นเมียก็ได้

เมื่อสุนทรภู่ลอบรักกับนางข้าหลวงในวังหลังคนหนึ่งชื่อแม่จัน จึงถูกกรมพระราชวังหลังกริ้วสั่งให้โบยและจำคุกคนทั้งสอง จนกระทั่งกรมพระราชวังหลังเสด็จทิวงคตจึงได้รับอภัยโทษ

๓. อย่าอวดรู้

นิสัยที่อาจไม่ดีอย่างหนึ่งของสุนทรภู่คือมั่นในความสามารถของตัวเองสูง สูงจนต้องออกจากราชการเพื่อไปบวชเพื่อหนีภัยอันอาจเกิดขึ้นกับตัว

ด้วยความที่เป็นคนโปรดของรัชกาลที่ ๒ สามารถต่อกลอนหยอกล้อได้โดยไม่ทรงโกรธ แต่ครั้งหนึ่งสุนทรภู่แสดงภูมิรู้ขอแก้แก้บทพระนิพนธ์ของกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ต่อหน้าพระที่นั่ง เมื่อสิ้นรัชกาลที่ ๒ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ได้เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นรัชกาลที่ ๓ สุนทรภู่จึงจำเป็นต้องตัดสินใจออกบวชเนื่องจากกลัวภัยที่ตนเองเคยได้ล่วงเกินไว้เมื่อกาลก่อน

๔. ให้ความสำคัญกับการศึกษา

แม้สุนทรภู่จะเป็นคนนอกเหมืองหลวง แต่การได้เรียนรู้หนังสือจึงทำให้สามารถเข้ารับราชการจนกระทั่งเป็นคนโปรดของพระเจ้าแผ่นดินได้ สุนทรภู่จึงให้ความสำคัญกับการศึกษาและสอดแทรกข้อคิดไว้ในวรรณคดีหลายตอน เช่น “รู้สิ่งไรไม่สู้รู้วิชา รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี” และ “ลูกผู้ชายลายมือนั้นคือยศ เจ้าจงอตส่าห์ทำสม่ำเสมียน”

 

ดังนั้นนอกจากสีเสื้อมงคลประจำวันแล้วที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคยกันแล้ว อีก ๔ บทเรียนจากชีวิตสุนทรภู่ ได้แก่ อย่าติดเหล้า ไม่ริเจ้าชู้ อย่าอวดรู้ และให้ความสำคัญกับการศึกษา  ก็น่าจะเป็นประโยชน์กับคนในยุคปัจจุบันได้เช่นกัน

เนื่องในวันสุนทรภู่ปีนี้ Typeไทย ขอคารวะมหากวีกระฎุมพี “สุนทรภู่” ที่มอบข้อคิดดี ๆ ให้กับพวกเราแม้ท่านจะจากไปกว่า ๑๖๔ ปีแล้วก็ตาม