อัพสกิลให้เจนจัด! เพื่อรับมือหมาจรจัด

การเดินตามตรอกซอยในประเทศไทยมีโอกาสเสมอที่จะเจอเจ้าถิ่นสี่ขาเสมอ! ทั้งที่มาแบบเดี่ยว ๆ หรืออยู่รวมกันเป็นหมู่ โดยเฉพาะเมื่อสถิติสุนัขจรจัดในประเทศไทยมีสูงถึง ๗๕๘,๐๐๐ ตัว และต่อให้เป็นสุนัขที่เรารู้จักหรือคุ้นเคยกันมาก่อนแล้ว หากคุณพี่เจ้าถิ่นเขากำลังอารมณ์ไม่ดีหรือไม่สบาย ก็อาจจะหันมาเล่นงานเราได้เช่นกัน

จากข้อมูลที่เก็บมาอย่างเป็นทางการ ในปี ๒๕๖๑ มีคนเสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้าสูงถึง ๔ คน จึงทำให้การเผชิญหน้าสุนัขจรจัดนั้นไม่ใช่เรื่องที่จะทำเป็นเล่นได้

แล้วมนุษย์อย่างเราจะทำอย่างไรให้สามารถตัวรอดจากคมเขี้ยวได้ ซึ่งสิ่งที่ดีที่สุดคือ “หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า” จะเดินไปไหนมาไหนต้องหูไวตาไว สังเกตเห็นเจ้าถิ่นแต่ไกล แล้วประเมินสถานการณ์ มีทางเลี่ยง ทางอ้อมไหม เดินผ่านเลี่ยง ๆ ไม่เขาไปในอาณาเขตของลูกพี่เขา เดินไปสบาย ๆ ไม่ต้องกลัวทางใครทางมันไม่ยุ่งกัน

แต่ถ้าหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าไม่ได้ เดินมาไม่ทันสังเกต แล้วจู่ ๆ ลูกพี่ก็พุ่งเข้าใส่ จะทำอย่างไร Typeไทย รวบรวมคำแนะนำให้แล้วดังนี้

๑. สติมาปัญญาเกิด  โดยปกติหากเป็นสุนัขปกติเวลาเจอคนแปลกหน้าจะเห่าก่อน คือวิ่งเข้ามาเห่าใส่และดูท่าทีของเรา ถ้าได้ยินเสียงสุนัขไล่กวด หรือเสียงเห่ามาแต่ไกล ให้ตั้งสติมองไปรอบ ๆ สังเกตสถานการณ์ว่าลูกพี่เขามาจากไหน บางที่สุนัขอาจกำลังวิ่งไล่คนอื่นก็ได้

๒. อย่าวิ่งเพราะจะโดนฟัดแน่ แต่ถ้าชัดเจนแล้วว่าเจ้าถิ่นวิ่งเข้ามาหาเรื่องกับเรา อย่าวิ่งทันที เพราะเจ้าถิ่นจะเห็นว่าตัวเองเหนือกว่าและจะกวดเราไม่หยุด แต่ถ้าเราหยุดดูท่าทีเจ้าถิ่นก็จะหยุดดูท่าทีเราเช่นกัน ที่สำคัญอย่าแสดงความกลัวเด็ดขาด

๓. จ้องตาคือหาเรื่อง สิ่งที่ต้องระวังคืออย่าจ้องตาสุนัขเด็ดขาด เพราะในความคิดของเขาการจ้องตาคือการท้าสู้ ด้วยอารมณ์และสถานการณ์ที่กำลังกรุ่น ๆ มองสุนัขได้แต่อย่าจ้องตาเด็ดขาด ไม่งั้นไม่จบง่าย ๆ

๔. ลองคุยเผื่อช่วยได้ บอกไว้ก่อน การยกมือทำท่าจะตี หรือ ตวาดไล่ดัง ๆ อาจได้ผลเฉพาะหมาเล็กแต่สำหรับหมาจรที่มีประวัติโชกโชน นอกจากจะไม่ช่วยอะไรแล้วอาจจะไปเร่งเร้าอารมณ์ให้เขาอยากฟัดเรามากยิ่งขึ้น ลองใช้โทนเสียงปกติพูดกับเขา เช่น “ไป ไป” “คนจะเดินน่า” “ไม่เล่นด้วย” จะช่วยได้มากกว่า

๕. เบี่ยงเบนความสนใจ หากทำทุกอย่างแล้วเจ้าถิ่นยังไม่หลบไปก็ต้องเปลี่ยนยุทธวิธี การเบี่ยงเบนความสนใจก็เป็นอีกหนึ่งวิธีการที่ได้ผลเสมอ โดยเฉพาะเมื่อมีอาหารอยู่ในมือ ดังสุนัขภาษิตที่ว่า ..การได้เคี้ยวอาหารอร่อย ๆ ย่อมดีกว่าการไล่ขย้ำน่องของมนุษย์อยู่แล้ว..

๖. หลบหลีกอย่างเนียน ๆ หากตั้งสติและประเมินสถานการณ์ได้แล้วว่า สุนัขที่วิ่งไล่มาหยุดและเห่าเราอย่างเดียว หรือถูกเบี่ยงเบนความสนใจไปแล้ว ก็ค่อย ๆ เดินหลบฉากออกมาอย่างช้า ๆ และคอยสังเกตด้วยว่าสุนัขกลับมาสนใจเราหรือไม่ พอเดินพ้นอาณาเขตของเขา เขาก็จะไม่ยุ่งกับเราแล้ว

๗. แก็ตเจ็ตช่วยได้ เครื่องผลิตคลื่นเสียงอุลตร้าโซนิคซึ่งเป็นความถี่เฉพาะที่สุนัขจะได้ยินเท่านั้น เมื่อเปิดเครื่องนี้แล้วจะสามารถทำให้สุนัขไม่ยุ่งกับเราได้

๘. แผ่เมตตาคุ้มกันภัย อีกหนึ่งไม้ตายหากสุนัขยังไม่เป็นมิตร ให้สวดแผ่เมตตาให้กับพี่เขา “สัพเพสัตตา…” เมื่อพี่เขาได้รับเมตตาและบุญกุศลแล้วก็จะเดินจากเราไปเงียบ ๆ เอง

แต่ถ้าไม่มั่นใจกับวิธีการเหล่านี้ ก็ต้องมาสายนี้เลย คาถาเด็ดกันหมาดุ!! ที่ไม่ว่าสุนัขดุแค่ไหนเจอคาถานี้เข้าไปเป็นเสร็จแน่นอน ลองเอาไปใช้กันดู

๑. (ตั้งนะโม ๓ จบ) “ไอ้จอ ไอ้จอ หางงอหูกาง เอ็นดูกูบ้าง อรหังพุทโธ” แล้วเป่าเพี้ยงไปที่ตัวสุนัข

๒. ท่องคาถา “อิ มา อา กิ” หรือ “สุนัขขะยัค สุมังขะรัง”  ท่องไปเรื่อย ๆ จะช่วยให้แคล้วคลาดปลอดภัย

และถ้าทำถึงขนาดนี้แล้วยังถูกสุนัขไล่กัดนั่นอาจหมายความว่าเป็นการจองเวรจองกรรมมาตั้งแต่ชาติปางก่อน คงต้องหมั่นไปทำบุญให้เจ้ากรรมนายเวร จะได้ทุเลาการถูกสุนัขไล่กัดลงไปบ้าง