นอกจากพระบรมรูปทรงม้า คนไทยพึ่งบารมีรัชกาลที่ ๕ ได้ที่ไหนบ้าง

พระบรมราชานุเสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่เก่าแก่และเป็นพระบรมราชานุเสาวรีย์ รัชกาลที่ ๕ แห่งแรกในประเทศไทยคือ “พระบรมรูปทรงม้า” ตั้งอยู่ ณ ลานพระราชวังดุสิต หรือที่หลายคนเรียกติดปากกันว่า ลานพระบรมรูปทรงม้า ซึ่งสร้างขึ้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวนับถึงวันนี้ก็มีอายุกว่า ๑๑๒ ปีแล้ว

ทุกวันนี้มีประชาชนเป็นจำนวนมากที่แวะเวียนไปขอพึ่งบารมีรัชกาลที่ ๕ ให้ช่วยเหลือ ปกปัก คุ้มครองในทุก ๆ ด้าน แต่ในหลาย ๆ คราที่ลานพระราชวังดุสิตมีความจำเป็นต้องใช้ในการจัดงาน หรือไม่สะดวกในการเข้าไปกราบพระบรมรูปทรงม้า คนไทยอย่างเรา ๆ จะไปพึ่งบารมีรัชกาลที่ ๕ ได้ที่ไหนอีกบ้าง Typeไทย ได้รวบรวมสถานที่แนะนำมาให้แล้ว

๑. พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม

นอกจากจะอยู่ไม่ไกลจากพระบรมรูปทรงม้าแล้ว วัดราชบพิธฯ ยังเป็นวัดประจำรัชกาลที่ ๕ อีกด้วย ที่สำคัญหลังจากกราบขอพรพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวแล้ว ยังสามารถแวะกราบพระบรมราชสรีรางคาร รัชกาลที่ ๙ ในอุโบสถวัดราชบพิธฯ ได้อีกด้วย ส่วนใครจะขอพึ่งบารมีในด้านไหนนั้นก็สุดแต่ความต้องการของแต่ละคนได้เลย

๒. พระบรมราชานุสาวรีย์สองรัชกาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ที่บริเวนหน้าหอประชุมใหญ่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นที่ตั้งของพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระปิยมหาราชและสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า เป็นอนุสรณ์สถานที่ระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ในวาระครบรอบ ๗๐ ปี แห่งการสถาปนาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นอกจากน้อง ๆ นักเรียน นิสิต จะไปขอพรในเรื่องการเรียน การสอบเข้าแล้ว บุคคลทั่วไปยังสามารถเข้าไปกราบขอพึ่งบุญญาธิการบารมีได้อีกด้วย

๓. พลับพลาสยามินทราศิริราชานุสรณีย์ โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์

เป็นที่ประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงอุ้มพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากเป็นพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของโรงพยาบาลประชาชนส่วนใหญ่จึงมาขอพรในเรื่องสุขภาพและการรักษาโรคเป็นหลัก

๔. ป้อมพระจุลจอมเกล้า สมุทรปราการ

นับเป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ และเกี่ยวพันกับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นอย่างยิ่งในการปกปักรักษาแผ่นดินจากการรุกรานของต่างชาติ ในเหตุการณ์ รศ.๑๑๒ แม้ในครั้งนั้นเราจะรักษาเอกราชไว้ได้ แต่ก็ต้องสูญเสียไปไม่น้อย ปัจจุบันนอกจากจะเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ยังเป็นที่ตั้งของ  พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในเครื่องแบบจอมพลเรืออีกด้วย เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ประชาชนแวะเวียนมาสัการะขอพรรัชกาลที่ ๕ เป็นประจำ

๕. โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า นครนายก

โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ใกล้กรุงเทพฯ เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าไปเยี่ยมชม และท่องเที่ยวกับกับกิจกรรมผจญภัยหลากหลายรูปแบบ นอกจากนี้ที่หน้าอาคารกองบัญชาการยังเป็นที่ประดิษฐาน พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทุกคนสามารถเข้าไปสักการะบูชาขอพึ่งบารมีได้อีกด้วย

๖. อุทยานราชภักดิ์ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

บอกเลยว่าที่เดียวครบ เพราะเป็นที่ประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระมหากษัตริย์ไทย ๗ พระองค์ ประกอบด้วย พ่อขุนรามคำแหงมหาราช สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระนารายณ์มหาราช สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นอีกสถานที่ที่ประชาชนสามารถสักการะบูชาและพึ่งพระบารมีของบูรพกษัตราธิราชได้อย่างเต็มที่

รัชกาลที่ 5

ไม่เพียงแค่นี้เท่านั้น ที่ศาลากลางจังหวัดอีกหลายแห่ง เช่น  เพชรบูรณ์ ภูเก็ต มุกดาหาร ยะลา ระยอง ราชบุรี ร้อยเอ็ด เลย ศรีสะเกษ สุพรรณบุรี สุรินทร์ อุดรธานี อุทัยธานี อุบลราชธานี กำแพงเพชร กระบี่ ขอนแก่น ชลบุรี ชัยนาท ชัยภูมิ ชุมพร เชียยงใหม่ ตราด นครราชสีมา นครสวรรค์ ปราจีนบุรี พังงา พิจิตร พิษณุโลก และอีกหลายสถานที่ก็เป็นที่ประดิษฐาน พระบรมราชานุเสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เช่นเดียวกัน คนไทยที่ต้องการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ หรือต้องการพึ่งพาบารมีสามารถไปได้ทุกที่โดยไม่ต้องเข้ามาถึง พระบรมรูปทรงม้า ณ ลานพระราชวังดุสิต

ส่วนการบูชาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หลายที่แนะนำให้มีบรั่นดี ไวน์ หรือคอนญัก แต่เราไม่แนะนำ ใช้แค่มาลัยหรือดอกไม้ธูปเทียนก็เพียงพอแล้ว จะเป็นกุหลาบสีชมพูสีตรงวันพระราชสมภพก็น่ารักดี ส่วนจะขออะไรนั้นก็ตามแต่สะดวกของแต่ละคน ขอแค่ “อย่าโกงชาติ อย่าโกงแผ่นดิน” ก็แล้วกัน