ชวนรู้จัก “วัดนักบุญยอเซฟ” ต้อนรับการเสด็จเยือนประเทศไทยของสมเด็จพระสันตะปาปา

ประเทศไทยมีผู้นับถือศาสนาคริสต์ประมาณ ๘ แสนคน โดยครึ่งหนึ่งหรือราว ๔ แสนคนเป็นที่ผู้นับถือคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ซึ่งมีพระประมุขสูงสุดคือ “สมเด็จพระสันตะปาปา” แม้ในประเทศไทยจะมีผู้นับถือคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกเพียง ๔ แสนคนซึ่งเป็นจำนวนไม่มากหากเทียบกับทั่วโลก แต่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ทรงมีพระเมตตาและจะเสด็จเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ ๒๐-๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ นับเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ที่ ๒ ที่เสด็จเยือนประเทศไทยหลังจากที่ สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ ๒ เคยเสด็จมาเมื่อ ๓๕ ปีมาแล้ว

หากย้อนกลับไปไกลกว่านั้นหรือเมื่อ ๓๕๐ ปีที่แล้ว ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช คณะบาทหลวงนำโดยพระสังฆราชปิแอร์ ลังแบรต์ เดอ ลา ม็อต ได้เดินทางมาถึงกรุงศรีอยุธยา และได้รับพระบรมราชานุญาตให้สร้างโรงเรียน และวัดขึ้น “เรียกว่า ค่ายนักบุญยอเซฟ” ณ ที่ดินพระราชทาน ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ด้านทิศใต้ นอกเกาะกรุงศรีอยุธยา นับเป็นจุดเริ่มต้นของการเผยแพร่คริสต์ศาสนาโรมันคาทอลิกอย่างเป็นทางการครั้งแรกบนแผ่นดินไทย และเป็นการก่อตั้งคริสตจักรโรมันคาทอลิกแห่งแรกในสยาม

การเผยแพร่ศาสนาคริสต์บนแผ่นดินไทยมีความสำคัญกับคนไทยอย่างไร? สิ่งหนึ่งซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเป็นคนไทยคือ การมีมิตรจิตมิตรใจ เปิดรับวัฒนธรรมที่หลากหลาย และรู้จักนำเอาสิ่งดี ๆ รอบตัวมาปรับใช้ ปรับเปลี่ยนเป็นวิถีแบบไทย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้ามาของคณะบาทหลวง หรือ มิชชั่นนารี ไม่ได้นำความเชื่อทางศาสนาเข้ามาเท่านั้น แต่ยังนำขนบวัฒนธรรม การศึกษา การแพทย์ เทคโนโลยี หรือแม้กระทั่งอาหารเข้ามาด้วย ซึ่งส่งผลให้เกิดการแลกเปลี่ยน และพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นในหลาย ๆ ด้าน โรงเรียนสมัยใหม่ การสาธารณสุขสมัยใหม่ รวมถึงการได้เรียนรู้ภาษาตะวันตก ซึ่งในที่สุดแล้วสิ่งเหล่านี้ก็เป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญให้ประเทศไทยสามารถเจรจากับต่างชาติและผ่านวิกฤติการล่าอาณานิคมได้ต่างจากประเทศเพื่อนบ้าน

การเดินทางมาถึงกรุงศรีอยุธยาของคณะพระสังฆราชปิแอร์ ลังแบรต์ เดอ ลาม็อต เมื่อ ๓๕๐ ปีที่แล้ว การเสด็จเยือนประเทศไทยของ สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์นปอลที่ ๒ เคยเสด็จเมื่อ ๓๕ ปีที่แล้ว และการเสด็จเยือนประเทศไทยของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสในครั้งนี้ จึงมีความหมายและเป็นการยกระดับประเทศและคนไทยให้สูงยิ่งขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าคนไทยในปัจจุบันจะมองเห็นประโยชน์และสร้างโอกาสต่อยอดเหมือนกับที่คนไทยในอดีตทำไว้ได้หรือไม่…

TypeThai ขอชวนชาวไทยไม่ว่าศาสนาใดร่วมเป็นเจ้าภาพต้อนรับการเสด็จเยือนประเทศไทยของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ระหว่างวันที่ ๒๐-๒๓ พฤศจิกายนนี้ ด้วยรอยยิ้มและความปีติ เพื่อแสดงถึงความเป็นไทยให้ทั่วโลกได้เห็น

รู้จัก “วัดนักบุญยอเซฟ” ต้นกำเนิดศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกในราชอาณาจักรไทย

วัดนักบุญยอเซฟ เป็นคริสตจักรโรมันคาทอลิกแห่งแรกบนแผ่นดินไทย เริ่มก่อสร้างปี พ.ศ. ๒๒๐๙ ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาและให้การศึกษาแก่เยาวชน ช่วงแรกก่อสร้างเป็นอาคารไม้ กระทั่งในปี พ.ศ. ๒๒๒๘ จึงก่อสร้างเป็นอาคารอิฐถือปูนตามแบบสถาปัตยกรรมยุโรป เมื่อครั้งเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง วัดถูกทำลายพระถูกกวาดต้อน จึงกลายเป็นวัดร้าง

ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ปี พ.ศ. ๒๓๙๐ สังฆราช ฌอง บัปติส ปัลเลอกัว ได้กลับมายังอยุธยาเพื่อบูรณะวัดขึ้นใหม่ตามขนาดและสถาปัตยกรรมบนรากฐานเดิม มาจนกระทั่งในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สังฆราชฌอง หลุยส์ เวย์ ได้สร้างวัดขึ้นใหม่ โดยมีนายยออากิม กราสซี สถาปนิกชาวอิตาเลียนเป็นผู้อกแบบ และมีบาทหลวงแปร์โร เป็นผู้ดูแลการก่อสร้างใช้เวลา ๘ ปี จนแล้วเสร็จใจปี พ.ศ. ๒๔๓๔ ซึ่งเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมอันงดงามริมแม่น้ำเจ้าพระยา และยังคงตั้งอยู่มาจนถึงปัจจุบันนี้