ความงดงามของความเป็น “พ่อ” ในพระบรมรูปปั้นในหลวงรัชกาลที่ ๙

เป็นความรู้สึกเหมือนกับเราตอนเด็กๆ ที่เวลาเราเห็นพ่อจะไปไหนเราก็ขอตามไปด้วยตลอด

เข้าสู่ช่วงวันสำคัญซึ่งถือได้ว่าเป็นวันแห่งความรักต้อนรับปลายปีที่กำลังเข้าสู่ฤดูหนาวได้อย่างอบอุ่น เนื่องในโอกาสวันพ่อแห่งชาติ วันที่คนไทยให้ความสำคัญ เพื่อระลึกถึงพระคุณของบิดาที่ได้เลี้ยงดูเรามาอย่างเหน็ดเหนื่อยTypethai ได้บังเอิญเห็นงานปั้นชิ้นหนึ่งผ่านการแชร์โพสท์ในเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นพระบรมรูปปั้นของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ ) ทรงรถเวสป้า กับสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่มียอดกดไลค์ กดแชร์ และมีผู้แสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก Typethai จึงได้ทำการติดต่อเพื่อขอสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับนักปั้นฝีมือดีคนนี้

ชื่อ ฮาร์ท สยามรัตน์ อักษรศักดิ์ ปัจจุบันประกอบอาชีพประติมากร มายาวนานกว่า ๒๐ ปี แล้วครับ

ความสนใจหรือแรงบันดาลใจในการปั้นพระบรมรูปปั้นของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ )

พี่ฮาร์ทเล่าเท้าความไปถึงจุดเริ่มต้นของการเริ่มปั้นพระบรมรูปปั้นของพระองค์หลังจากการเสด็จสวรรคต โดยเล่าว่าหลังจากที่ทราบข่าวร้าย พี่ฮาร์ทรู้สึกสะเทือนใจ และเสียใจเป็นอย่างมาก จนไม่สามารถปั้นงานต่อได้ (ตอนนี้แกพูดไปพร้อมกับเสียงสั่นเครือเล็กน้อย)  พี่ฮาร์ทบอกว่าช่วงแรกไม่สามารถทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ จึงไปเช่าเหรียญพระบรมฉายาลักษณ์ของท่านมาเพื่อเป็นที่พึ่งทางใจ ให้รู้สึกว่าใจได้เติมเต็มบางอย่าง แต่ทำอย่างนั้นอยู่ได้ไม่นานก็ยังรู้สึกว่ายังเติมเต็มได้ไม่พอ พี่ฮาร์ทจึงลงมือปั้นเอง โดยบอกต่อว่า พอได้เริ่มปั้นท่านเอง ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นมาเลยรู้สึกเหมือนว่าท่านยังอยู่กับเรา แล้วเห็นรูปท่านแค่นิดเดียวมันไม่พอ ต้องหาข้อมูลไปด้วย ทำให้เราได้รู้เรื่องของท่านมากขึ้น และรู้สึกว่า โห ท่านทำขนาดนี้เลยหรอ 

เป็นจุดที่ทำให้สนใจงานของท่านมากขึ้นเลยใช่มั้ย  ไม่ใช่ว่าเราไม่สนใจนะก่อนหน้านั้น แต่เหมือนกับว่าเรามีพ่ออยู่ เรารู้ว่าท่านยังอยู่ เรามองข้าม เหมือนใกล้ตัวเกินไป เราเลยมองข้าม

ผลงานของการปั้นพระบรมรูปปั้นของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่) ที่ผ่านมาของพี่ฮาร์ท ครั้งแรกปั้นพระองค์ทรงผนวชนั่ง เพื่อเป็นการแสดงออกในมุมมองของการค้ำชูพุทธศาสนาหลังจากทำเสร็จและได้โพสท์รูปลงเฟซบุ๊ก ก็มีผู้ให้ความสนใจมากมาย ครั้งต่อมาเป็นการปั้นเด็กชายตัวน้อยที่กำลังก้มกราบพระบาทของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ รูปที่สามเป็นพระบรมรูปปั้นพระองค์ทรงผนวชและยืนถือบาตร ส่วนรูปที่สี่เป็นพระบรมรูปปั้นพระองค์และคุณยายท่านหนึ่งทูลเกล้าฯ ถวายดอกบัวแก่พระองค์

ทำไมพี่ฮาร์ทถึงลงมือปั้นรูปพระองค์ท่านมาเรื่อย ๆ  ปั้นแล้วมันดีกับเรา เหมือนรักษาแผลใจ ปั้นแล้วยิ้มอยู่คนเดียว น้ำตาไหลอยู่คนเดียว เพราะเราใช้เวลากับท่านมากใช่มั้ย ครับ ต้องใช้เวลาในการอยู่กับใบหน้า อยู่กับร่างกายของท่านเป็นเวลานาน ทำให้เรามีสมาธิจดจ่อกับรูปปั้นของท่านและได้ซึมซับช่วงเวลานั้น ซึ่งมันช่วยเติมเต็มเราได้ดี ส่วนเหตุผลในการเลือกปั้นรูปหรือเหตุการณ์นั้นๆ พี่ฮาร์ทเลือกจากปฏิกิริยาต่อรูป รูปนั้นต้องให้ความรู้สึกบางอย่างกับเขา นอกเหนือจากนี้แล้วเขายังเลือกรูปจาก ความคลาสสิคและองค์ประกอบที่สวยงามของรูปอีกด้วย

เล่าถึงพระบรมรูปปั้นพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ ) ทรงเวสป้ากับสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีหน่อยครับ

พี่ฮาร์ทเล่าว่าเรามักจะได้เห็นภาพคุ้นตา ที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเสด็จตามพระองค์ท่านไปทุกหนทุกแห่ง งานปั้นของพี่ฮาร์ทครั้งนี้จึงเป็นคอนเซปท์ตามรอยพ่อ ที่ไม่ใช่เพียงการเสด็จตามเท่านั้น แต่หมายรวมไปถึงการปฏิบัติตนตามอย่างพระองค์ท่าน และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับพสกนิกรไทยเรื่อยมา นอกจากนี้พี่ฮาร์ทยังกล่าวเปรียบเทียบได้อย่างเห็นภาพไว้ว่า เป็นความรู้สึกเหมือนกับเราตอนเด็กๆ ที่เวลาเราเห็นพ่อจะไปไหนเราก็ขอตามไปด้วยตลอดซึ่งสิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความผูกพัน และการใช้เวลาร่วมกันในครอบครัว

ความงดงามในพระจริยวัตร ในมุมมองของพ่อกับลูกสาวในงานปั้นชิ้นนี้ คือ ต้องคำนึงถึงสัดส่วนของท่านให้มองแล้วรู้สึกว่าใช่ท่าน งานเป็นงานลอยตัว เต็มองค์ เห็นทุกอย่าง พยายามทำให้หมุนดูแล้วสวยทุกมุม

เมื่อถามถึงความยากของงานชิ้นนี้

พี่ฮาร์ทเล่าถึงความยากของงานนี้ได้อย่างไม่ติดขัดตามประสาผู้คลุกคลีกับงานที่ตนรักนับปี ต้องไปศึกษาใบหน้าของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเพิ่มเติม หาดูรูปตอนเด็กเพิ่มเยอะ เพื่อดูหน้าตาท่านและบอดี้ท่าน ซึ่งรูปตอนเด็กหายากมาก แก้บอดี้ท่านไปสองรอบ ต้องทำการศึกษาใหม่ ลงดีเทลใหม่ สัดส่วนเด็กสองขวบต้องสูงเท่านี้ หัวขนาดนี้ ความยากคือการทำให้ดูแล้วทราบว่าเป็นท่าน

ในฐานะศิลปินไทย นอกจากงานปั้นที่สวยงาม อยากให้คนไทยย้อนกลับไปเห็นอะไรใน “พระเจ้าอยู่หัวของเรา อยากให้คนเห็นงานแล้วรู้สึกว่า ความรักของในหลวงคือท่านไม่ได้รักแค่ลูกท่าน แต่ท่านรักประชาชนทั่วประเทศเหมือนกันโดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเป็นสื่อสำคัญ อิริยาบถของท่าน คือท่านกำลังประคองทะนุถนอม มีมือเอื้อมลงไปประคองในขณะลงจากรถ ให้ความรู้สึกว่าความรักของพ่อที่มีต่อลูกนั้นยิ่งใหญ่  ในมุมใหญ่เราจะมองเห็นความรักของท่านที่มีต่อประชาชน แต่ในมุมมองของครอบครัว เราจะเห็นความเป็นห่วงเป็นใยของพ่ออยู่ที่การตีความ

สุดท้ายนี้ สำหรับผู้ที่มีความสนใจในงานปั้นของพี่ฮาร์ท สามารถติดตามผลงานของพี่ฮาร์ทได้ทางเฟซบุ๊กส่วนตัวสยามรัตน์ อักษรศักดิ์ ซึ่งนอกเหนือจากงานปั้นพระบรมรูปปั้นของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ ) แล้ว พี่ฮาร์ทยังมีผลงานการปั้นอื่น ๆ อัพเดตผ่านเฟซบุ๊กเป็นระยะ ๆ อีกด้วย