เปิดตำนาน “เพลงน้ำเก๊กฮวย” เพลงกีฬาสีที่ไม่มีใครรู้ว่ามาจากไหน?

… เก๊กฮวย ถ้วยใหญ่ ๆ แช่เอาไว้อยู่ในตู้เย็น

สีอื่น เค้าผ่านมาเห็น สีอื่นเค้าผ่านมาเห็น

แอบเปิดตู้เย็นกินน้ำเก๊กฮวย

ชักแหง่ก แหง่ก แหง่ก แหง่ก แหง่ก

ชักแหง่ก แหง่ก แหง่ก แหง่ก แหง่ก …

 

เคยสงสัยหรือไม่ว่า ทำไมต้องเป็น “น้ำเก๊กฮวย” และทำไมกินน้ำเก็กฮวยแล้วต้อง “ชักแหง่ก ๆ” หรือหลายคนอาจจะงงตั้งแต่แรกเลยว่า ทำไมกองเชียร์ในกีฬาสีเขาถึงร้องเพลงนี้กัน? ร้องแล้วได้อะไร? ร้องไปเพื่ออะไร? พอถามทีมงาน Typeไทย กันเองทุกคนก็บอกว่ารู้จักและเคยร้อง แต่ไม่มีใครรู้ว่ามาจากไหน

เพราะความสงสัยมันคันคอ ทีมแอดมินจึงไปตามหาคนที่เคยเป็นผู้นำเชียร์ หรือประธานเชียร์มาคุยกันว่า ทำไมในการเชียร์กีฬาถึงต้องร้องเพลงน้ำเก๊กฮวย?

“เป็นเหมือนเซ็ตลิสต์เพลงเชียร์ที่ร้องต่อ ๆ กันมาจากรุ่นสู่รุ่นน่ะค่ะ เราก็สอนรุ่นน้องต่อไปไม่เคยถามว่าเพลงนี้มาจากไหน”

พี่นก รองประธานเชียร์ สีเหลือง โรงเรียนราชวินิต มัธยม รุ่น ๑๘ ให้ข้อมูลเบื้องต้น อันที่จริงไม่ใช่แค่พี่นกเท่านั้น แต่ถามใครที่เคยนำเชียร์ทุกคนก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เพลงนี้มีอยู่ในคู่มือเพลงเชียร์มานานแล้ว เมื่อใครมาเป็นผู้นำเชียร์ทุกคนก็ต้องซ้อมและสอนเพลงนี้ให้กับกองเชียร์ของตัวเอง

พอถามต่อไปว่า แล้วเคยมีการคุยกันว่าในหมู่กองเชียร์หรือไม่ว่า ทำไมกินน้ำเก็กฮวยแล้วจึงมีอาการชักแหง่ก ๆ พี่นกก็เลยเล่าต่อว่า “ก็มีบ้างที่สงสัยกันนะ แต่พอได้ร้องได้เต้นแล้วก็สนุกจนไม่ได้สนใจว่าเพราะอะไรกินน้ำเก็กฮวยแล้วจึงชัก โดยเฉพาะตอนที่ร้องว่า ชักแหง่ก ๆ ๆ ๆ แล้วมันเหมือนเป็นสาปสีอื่นที่เป็นคู่แข่ง ก็สนุกจนลืมคิดอะไรไปเลย แต่ก็มีเหมือนกันนะที่บางคนคิดกันไปเองว่า คงเพราะน้ำเก๊กฮวยใส่ยาพิษบ้าง ใส่น้ำลายบ้าง แช่งเอาไว้บ้าง พอกินไปแล้วก็เลยชัก เดา ๆ กันไปไม่มีใครหาคำตอบจริงจัง”

ด้วยความสนุกของเพลง และบรรยากาศในการเชียร์ จึงไม่มีใครสนใจค้นหาคำตอบอย่างจริงจัง ซึ่งพอเราไปถามอดีตผู้นำเชียร์รุ่นใหญ่อย่างพี่ต่าย อดีตประธานเชียร์ ทีมสีเหลืองจากโรงเรียนสวนอนันต์ ปี ๓๕ ก็ให้คำตอบไปในทิศทางเดียวกันว่า “ไม่เคยรู้สึกสงสัยเลย เพราะจำได้ว่าร้องเพลงนี้มาตั้งแต่กีฬาสีโรงเรียนประถม มาจนถึงมัธยม ก็เลยไม่รู้สึกสงสัย”

ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครรู้ถึงที่มาของเพลงน้ำเก๊กฮวย จนกระทั่ง พี่โก้ ผู้นำเชียร์ จากโรงเรียนพุทธิโศภน ปี ๔๐ เข้ามาร่วมวงคุยด้วย โดยแชร์ข้อมูลอีกมุมหนึ่งว่าที่เชียงใหม่ก็มีเพลงแบบนี้เหมือนกันแต่ไม่ได้ร้องว่าน้ำเก็กฮวย

“ที่นี่ก็มีเพลงแบบนี้นะคะ แต่ร้องอีกแบบว่า โพลิดอน โพลิดอนขวดใหญ่ แช่เอาไว้อยู่ในตู้เย็น สีแดงเค้าผ่านมาเห็น สีแดงเค้าผ่านมาเห็น เปิดตู้เย็นดื่มน้ำโพลิดอน ชักแหง่ก ๆๆๆ ชักแหง่ก ๆๆๆ ชักแหง่ก ๆๆๆ คือไม่ใช่น้ำเก็กฮวยแต่เป็นโพลีดอน ซึ่งโพลีดอนคืออะไรก็ไม่รู้ เป็นเพลงเชียร์ร้องตาม ๆ กันมาเหมือนกัน”

คุยกันถึงตรงนี้ พี่นก อดีตรองประธานเชียร์ กับ พี่ต่าย อดีตประธานเชียร์ ก็ช่วยกันกูเกิลว่า “โพลีดอน” คืออะไร จนพบว่าเป็นสารเคมีกำจัดวัชพืชยี่ห้อหนึ่งในอดีต และอาจมีสีคล้ายน้ำเก๊กฮวย ซึ่งก็สอดคล้องกับเพลงเชียร์ที่บอกว่าเมื่อกินแล้วไปแล้วจะเกิดอาการชักแหง่ก ๆ

“หรือเพราะเขากลัวว่าจะมีคนเอาโพลีดอนไปกินจริง ๆ ก็เลยเปลี่ยนเนื้อร้องให้เป็นน้ำเก๊กฮวยก็ได้นะ”

พี่นกอดีตรองประธานเชียร์ให้ความเห็น ในขณะที่ พี่ต่าย กับ พี่โก้ก็เกิดอาการฮือฮาขึ้นมาว่า หรือจะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ

“ถ้านี่เป็นตำตอบจริง ๆ ก็นับได้ว่าเป็นการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ของวงการเชียร์กีฬาสีเลยนะเนี่ย” พี่ต่ายเริ่มรู้สึกตื่นเต้นไปด้วย

 

แต่ไม่ว่าเพลงน้ำเก๊กฮวยจะมีที่มาจากไหน หากพาทุกคนย้อนวัยกลับไป ประมาณ ๒๐-๓๐ ปีก่อน หลายคนอาจจะคุ้นเคยว่าตามร้านขายยาหรือร้านของชำจะมีตู้เย็นสีเงินที่มีกระจกเลื่อนแบบใสไว้เปิดปิดและแสดงสินค้าข้างใน หนึ่งในสินค้ายอดนิยมคือ น้ำเก๊กฮวยใส่แก้วใบใหญ่ ๆ แช่เย็นนั่นเอง เมื่อก่อนเวลาเดินทางกลับบ้านจากที่ทำงานหรือโรงเรียนเวลาอากาศร้อน ๆ พอเจอน้ำเก๊กฮวยในตู้เย็นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะต้องแวะดื่มทุกครั้งไป

โดยเฉพาะเมื่อดอกเก๊กฮวยมีสรรพคุณทางยามากมาย อาทิ มีฤทธิ์เป็นยาเย็น ช่วยดับพิษร้อน แก้ร้อนใน แก้กระหาย เพิ่มความสดชื่น ช่วยขับเหงื่อ ช่วยกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย เป็นต้น

ซึ่งเก๊กฮวยต้มที่ใส่แก้วขายตามร้านในอดีตนั้นต้องยอมรับว่า มีความหอมกว่า และอร่อยกว่าเก๊กฮวยแบบชง หรือเก๊กฮวยบรรจุขวดในปัจจุบัน โดยเฉพาะเมื่อเป็นร้านขายยาของคนไทยเชื้อสายจีนที่มีสูตรต้มน้ำเก๊กฮวยของแต่ละร้านโดยเฉพาะ คุยกันถึงตรงนี้ พี่นก พี่ต่าย และพี่โก้ ก็รู้สึกอยากดื่มน้ำเก๊กฮวยเป็นแก้วแช่ตู้เย็นขึ้นมาทันที ซึ่งร้านที่ขายน้ำเก๊กฮวยลักษณะนี้นับว่าหาได้ยากมากแล้วในปัจจุบัน

แล้วตอนนี้ยังมีที่ไหนขายน้ำเก๊กฮวยแก้วใหญ่ ๆ บ้างล่ะ?

ร้านสุวรรณเภสัช หน้าตลาดบางเขน

ร้านนี้อดีตนิสิตเกษตรฯ แนะนำมา เป็นร้านขายยาหน้าตลาดบางเขน ชื่อร้าน สุวรรณเภสัช นอกจากให้คำปรึกษาการใช้ยา และขายยาแผนปัจจุบันแล้ว ที่นี่ยังมีตู้แช่แบบเก่า และยังขายน้ำเก๊กฮวยใส่แก้วอยู่ โดยขายมากว่า ๓๐ ปีแล้ว ทุกวันนี้ก็ยังใช้สูตรต้มน้ำเก๊กฮวยแบบดั้งเดิมอยู่ เมื่อก่อนขายแก้วละบาทตอนนี้ขายแก้วละ ๔ บาท รสชาติหอมหวานอร่อยต่างจากเก๊กฮวยขวด ล่าสุดเจ้าของร้านบอกมาว่า ถ้าตู้เย็นพังเมื่อไหร่ก็คงจะต้องเลิกขาย ถ้าใครยังไม่เคยลองชิมน้ำเก๊กฮวยร้านนี้ กดโลเคชั่นแล้วไปชิมกัน

https://goo.gl/maps/9JpXEDDczyxbu2JT6

ร้านชัยยะเวช สี่แยกบ้านแขก

เป็นอีกหนึ่งร้านขายยาที่มีน้ำเก๊กฮวยใส่แก้วแช่เย็นขาย ร้านชัยยะเวช ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกบ้านแขก ถนนอิสรภาพ คนแนะนำบอกมาว่า ได้กินน้ำเก๊กฮวยร้านนี้มาตั้งแต่เด็ก จนถึงวันนี้ก็ยังแช่เก๊กฮวยแก้วใหญ่ ๆ ขายอยู่เหมือนเดิม สูตรและรสชาติยังเหมือนเดิม จึงอยากแนะนำให้คนชอบน้ำเก๊กฮวยแท้ ๆ ได้มีโอกาสชิมก่อนที่จะเลิกทำ กดโลนี้แล้วตามไปชิมได้เลย

https://goo.gl/maps/KcH322NNfhsFYS8b8

 ร้านบัณฑิตเภสัช พระรามสอง

เก๊กฮวยแก้วใหญ่ ๆ สูตรดั้งเดิม ใส่แก้วแช่ไว้เย็น ๆ ให้คนผ่านไปมาได้ดื่มคลายกระหาย และดับร้อน ร้านขายยา ๑ คูหาหลบเข้ามาอยู่ในซอยเล็ก ๆ เป็นอีกร้านที่ยังคงรักษารสชาติจากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน หากมีโอกาสผ่านไปแถวพระรามสองซอย ๑๑ ก็สามารถแวะไปชิมได้ว่า รสชาติน้ำเก๊กฮวยแบบต้มต่างจากแบบชงหรือแบบขวดอย่างไร บอกไว้ก่อนนะว่าร้านนี้ปิดทุกวันศุกร์

https://goo.gl/maps/UjN9sgGhujdW9hcX7

น้ำเก๊กฮวยแก้วใหญ่ ๆ แช่เย็น ๆ กินแล้วไม่ชัก มีแต่ความสดชื่น ดับกระหาย ทั้งยังขับพิษและช่วยบำรุงร่างกาย แต่กินแล้วอย่าชักดาบก็แล้วกัน ไม่เช่นนั้นคงได้ชักแหง่ก ๆ เหมือนเพลงเชียร์สมัยเด็กแน่นอน