ลุงอู๋พิสูจน์แล้ว! มะม่วงออนไลน์ฝ่าวิกฤต ๒ สัปดาห์หมดสวน

หลายวันก่อนมีพ่อค้าคนกลาง โทรมาหาจะมาเหมามะม่วงที่สวนในราคาที่ต่ำกว่าเดิมมาก  เรียกว่าขายไปก็ขาดทุนยับ แล้วเราจะเหลืออะไร ทั้งแรงใจ แรงกายที่เราทุ่มเทมาทั้งปี  ยังไม่ได้ครึ่งของที่ลงทุนไป ถ้าเราขายให้ในราคานั้น แล้วเราจะลงทุนในปีต่อไปได้อย่างไร …เราทำสวนนี้มา ๑๐ ปี  ผ่านมาแล้วทั้งแล้ง  ทั้งไฟไหม้ เราเชื่อว่าปีนี้เราจะผ่านมันไปได้เช่นกัน … เราเลยตอบไปว่า “เราไม่ขาย เราจะขายปลีกเอง” เค้า…”หัวเราะ”  แล้วถามเราว่า จะขายหมดหรอ ตั้ง ๑๐ ตัน เราก็หัวเราะ(ทั้งน้ำตา)ตอบไปว่า…… “เราก็ไม่รู้เหมือนกัน”

เพจเฟซบุ๊ค @มะม่วงน้ำดอกไม้ เกรดส่งออกนอก สวนลุงอู๋

ภายหลังจากที่โพสข้อความนี้ขึ้นหน้าเพจเฟซบุ๊คผลปรากฏว่า มะม่วงน้ำดอกไม้เกรดส่งออกจากสวนลุงอู๋จำนวน ๓๐,๐๐๐ ผล หรือคิดเป็นน้ำหนักราว ๑๐ ตัน ขายหมดภายในระยะเวลา ๒ สัปดาห์ แต่กว่าจะมีรอยยิ้มได้นั้น ต้องฝ่าฟันอุปสรรคกันอย่างหนักหนาสาหัสไม่น้อย

ตอนที่เริ่มมีโรคโควิด-๑๙ ใหม่ ๆ คุณธีรพงษ์ บัญญัติโลก หรือ “พี่อู๋” เจ้าของสวนมะม่วงน้ำดอกไม้ส่งออก “สวนลุงอู๋” บนพื้นที่ ๓๐ ไร่ ในอำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ได้เฝ้าคอยติดตามข่าว และคาดว่าโควิดน่าจะหมดไปก่อนที่มะม่วงจะพร้อมขาย แต่เสียดายที่การณ์ไม่เป็นไปอย่างที่คาดไว้

มาจนถึงวันที่ต้องเตรียมการเก็บเกี่ยว สถานการณ์โควิด-๑๙ กลับรุนแรงมากขึ้น ผู้คนไปไหนไม่ได้ สายการบินงดเดินทาง แม้เครื่องบินขนส่งสินค้าจะยังคนให้บริการแต่ราคาค่าขนส่งก็เพิ่มขึ้น พ่อค้าคนกลางก็คอยโทรมาถามว่าจะเอาอย่างไร แต่ราคาที่รับซื้อก็มีแต่ขาดทุนยับเยิน

“แต่จะไปว่าพ่อค้าคนกลางก็ไม่ได้ ถ้าไม่จำเป็นเขาก็ไม่อยากกดราคาชาวสวนหรอก แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปีนี้วิกฤตจริง ๆ ส่งออกยาก ค่าขนส่งแพง มะม่วงต้องส่งออกทางเครื่องบิน ซึ่งในวันที่เขาห้ามคนเดินทางค่าขนส่งสินค้าก็เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ไปจนถึงต้องเหมาลำ” พี่อู๋เล่า

อาจเป็นความโชคดีที่ภรรยาของพี่อู๋ขายของออนไลน์อยู่แล้ว เลยคุยกันว่า

“เราลองขายมะม่วงออนไลน์กันไหม?”

เมื่อมีทางเลือกระหว่างขายยกสวนซึ่งขาดทุนแน่ ๆ กับ ขายปลีกออนไลน์ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะขายได้มากน้อยแค่ พี่อู๋และภรรยาจึงตัดสินเลือกเส้นทางขายออนไลน์ เพราะเชื่อว่ามีโอกาสมากกว่าจากพฤติกรรมการบริโภคของคนโลกดิจิทัล โดยแบ่งหน้าที่กันคือ ภรรยารับผิดชอบการขาย การพูดคุยกับลูกค้า ส่วนพี่อู๋ดูแลการเก็บเกี่ยว ทำสต็อก ตรวจสอบคุณภาพมะม่วง และบรรจุหีบห่อ

“การขายของสดอย่างมะม่วงนั้นมีจังหวะเวลาของเขา เราต้องรอให้มะม่วงแก่จัดก่อนถึงจะตัดได้ แต่ต้องไม่ปล่อยให้สุกคาต้น ต้องคอยดูว่าวันนี้มะม่วงพร้อมส่งได้กี่กิโล กี่กล่อง ในขณะที่ภรรยาก็ต้องคอยตอบ คอยดูแลลูกค้า”

เหมือนจะเป็นเรื่องง่าย โดยเฉพาะเมื่อทำสวนมะม่วงมานานกว่า ๘ ปี แต่สำหรับการขายออนไลน์แล้วปีนี้เป็นครั้งแรก

“ภรรยาผมบอกให้สั่งทำกล่องไว้เลย” พี่อู๋เล่าเหตุการณ์หลังจากตัดสินใจขายมะม่วงออนไลน์

“กล่องต้องดี ส่งแล้วไม่แตก มะม่วงไม่ช้ำ สร้างความประทับใจให้ลูกค้า” มุมมองของภรรยาที่มีประสบการณ์ขายของออนไลน์ช่วยให้เริ่มต้นได้เป็นอย่างดี

แล้วเกิดอะไรขึ้นหลังจากโพสเฟสบุ๊ควันแรก “วันแรกขายไม่ได้เลย”

“คือเราไม่เคยขายมาก่อน ไม่มีใครคิดว่าเราจะขาย ไม่มีใครรู้ว่าเราขายมะม่วงออนไลน์ แต่ภรรยาผมก็พยายามโพสในเฟสบุ๊คส่วนตัวบ้าง วันต่อ ๆ ก็ถึงเริ่มมีออเดอร์ แต่มาพีคที่สุดคือผ่านไป ๑ สัปดาห์ คนเข้ามาสั่งเยอะมาก และขายมะม่วงหมดสวนได้ภายในสัปดาห์ที่สองนี้เอง”

หลังจากการพูดคุยวิเคราะห์ว่าทำไมถึงขายดีหลังผ่านไป ๑ สัปดาห์ คุณอู๋และภรรยาสรุปว่า เพราะการบอกต่อ เพราะลูกค้าเก่าที่เขาซื้อไปแล้วชอบคุณภาพของมะม่วง บางคนก็สั่งไปฝากญาติ ฝากเพื่อน พอคนได้รับรู้สึกถูกใจเขาก็มาเป็นลูกค้าเราต่อ

“การวางแผนของภรรยาไว้ดีตั้งแต่ต้นทำให้ลูกค้าชอบ บอกต่อและกลับมาสั่งของเราอีกรอบจนของหมด”

 

แม้จะขายได้หมดแต่ดราม่าไม่จบ !

ภรรยาคุณอู๋เล่าว่ามีคนเอาเรื่องราวของมะม่วงสวนลุงอู๋ไปแชร์ในทวิทเตอร์จนมีคนสั่งมะม่วงเข้ามาเยอะมากแล้วมีคนหลุดโอนเพราะต้องคอนเฟิร์มให้กับคนที่โอนมาก่อน พอทำการแจ้งให้กับคนที่สั่งแล้วไม่โอนว่าของหมดแล้วก็ถูกต่อว่ามาบ้าง

“แต่ก็เป็นส่วนน้อยมาก ๆ เลยที่เขาว่าเรา ๒-๓ คน ส่วนใหญ่เขาก็ให้กำลังใจ ดีใจกับเราว่าขายได้หมดแล้ว”   

สิ่งที่คุณอู๋และภรรยาอยากบอกกับคนไทยมากที่สุดคนไม่พ้นคำว่า ขอบคุณ ไม่ใช่แค่ขอบคุณที่เข้ามาช่วยกันซื้อ แต่ขอบคุณไปถึงน้ำใจ และกำลังใจจากหลาย ๆ คนที่ส่งข้อความมาให้ เข้ามายินดีกับเรา

“แม้ว่าจะเหนื่อย แต่ก็ซาบซึ้งมาก ๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้น จากปกติที่เคยส่งออกมาทุกปี แต่จากเหตุการณ์ในปีนี้เราก็วางแผนกันว่า ผลผลิตในปีต่อ ๆ ไปเราจะขายให้กับคนไทย ขายให้กับลูกค้าในประเทศที่ต้องการมะม่วงของเราก่อน แล้วจากนั้นค่อยส่งออก”

อย่างไรก็ตามภารกิจของคุณอู๋และภรรยายังไม่จบ ยังมีชาวสวนอีกหลาย ๆ แห่งที่ยังประสบปัญหาส่งออกมะม่วงไม่ได้ ต้องขายขาดทุน คุณอู๋และภรรยาก็ช่วยให้คำแนะนำในการขายออนไลน์เท่าที่จะทำได้ ไปจนถึงช่วยขายเท่าที่จะทำได้

เพราะในวันนี้ยังมีชาวสวนมะม่วงอีกหลายครอบครัวที่ยังคงรอความหวัง รอให้รัฐช่วยเหลือ แม้รัฐจะพยายามช่วยแค่ไหนก็ไม่สามารถช่วยได้ทั้งหมด สวนลุงอู๋จึงเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ชาวสวนมะม่วงลุกขึ้นมาแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง ดึงศักยภาพที่มีมาสร้างทางออกจนสามารถเอาตัวรอดผ่านวิกฤตมาได้ในที่สุด

อยากบอกอะไรกับชาวสวนมะม่วงในเวลานี้บ้าง?

ลุงอู่และภรรยาบอกว่า “อยากให้กำลังใจ อย่าท้อ เอาชนะช่วงเวลานี้ไปให้ได้ เมื่อเจอปัญหาก็ต้องแก้ ค่อยแก้ไปทีและอย่าง อย่างมีสติ ลองออกออกจากกรอบเดิม ๆ บ้าง อย่างการขายออนไลน์หากทำเองไม่ได้ มีลูกมีหลานที่เขามีความรู้เรื่องออนไลน์ ให้พวกเขาช่วยก็ได้”

แม้มะม่วงสวนลุงอู๋ปีนี้จะขายหมดแล้ว แต่ยังมีสวนมะม่วงอีกหลายแห่งที่ยังคงรอคอยโอกาสในการขาย ในขณะเดียวกันโอกาสของชาวสวนก็เป็นโอกาสของผู้บริโภคภายในประเทศ ที่จะได้มีโอกาสรับประทานมะม่วงเกรดส่งออกในราคาเบา ๆ มะม่วงสวย ๆ หอมหวาน เนื้อเนียนละเอียด ราคากิโลละไม่กี่สิบบาท โอกาสดี ๆ แบบนี้ เรียกว่าสมประโยชน์ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ไม่สมควรปล่อยผ่านไปอย่างยิ่ง

########

 

Typeไทย ชวนคนไทยกินมะม่วงช่วยเกษตรกรไทย ปีนี้ผลไม้ไทยประสบปัญหาในการส่งออกอันเป็นผลมาจากการระบาดของโรคโควิด-๑๙ เพื่อเป็นการช่วยเหลือคนไทย และได้รับประทานผลไม้คุณภาพในราคาสบายกระเป๋า เจอมะม่วงที่ไหนช่วยกันซื้อมารับประทานกัน หรือสามารถสั่งตรงจากสวนผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆได้เช่นกัน ถ้าไทยไม่ช่วยกันแล้วใครจะช่วยเรา

#กินมะม่วงไทย #มะม่วงสุข  #ไทยสุข