ขวัญผวา วันฝนโตกกก…

เคยไหมครับกับวันชวนขนหัวลุก โดยเฉพาะช่วงเวลาเลิกงานฝนตกหนัก น้ำท่วม รถติด ในขณะที่คุณทำอะไรไม่ได้นอกจากรอคอยความเคลื่อนไหวอยู่บนท้องถนนก็เกิดอาการ “ปวดขี้” อย่างหนัก

อารมณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกชวนขนลุกขนพองแบบนี้ เชื่อว่าคนเมืองหลวงมีโอกาสเผชิญกันทุกคน แล้วอย่าคิดว่าเรื่องแบบนี้ไม่สยองนะครับ การปวดขี้ในวันฝนตกหนักสยองได้ขนาดนี้ ลองมาอ่านเรื่องนี้กัน

 

ขวัญผวาวันฝนตก เรื่องที่ ๑

ประสบการณ์จริงจาก คุณอวมงคลกิจ หรือ คุณแต้ (นามสมมติ) หนุ่มเซลล์แมนสู้ชีวิต ผู้ออกไปพบลูกค้าทุกวันใช้ชีวิตบนถนนในกรุงเทพแทบจะตลอดเวลา คุณแต้เล่าว่า วันหนึ่งฝนตกหนัก น้ำก็ท่วม แล้วไปกินของผิดสำแดงอะไรมาก็ไม่รู้ปวดขี้หนักมาก

โชคดีที่รถเมล์จอดติดอยู่หน้าห้างก็เลยกระโดดลงจากรถเมล์ วิ่งไปที่ห้างอย่างรวดเร็ว ที่ห้างย่านลาดพร้าวแห่งนี้มีห้องน้ำอยู่ที่ชั้นใต้ดินใกล้ประตู คุณแต้พุ่งตัววิ่งอย่างเร็วไปที่ห้องน้ำ แม้จะเห็นว่ามีป้ายทำความสะอาดตั้งอยู่ แต่สถานการณ์วิกฤติหนัก จึงไม่สนใจวิ่งเข้าส้วมปิดประตูดังปัง ทันเฉียดฉิวเส้นยาแดงผ่าแปด!

หลังจากที่ปลดทุกข์อย่างสบายอารมณ์ด้านนอกห้างก็ยังคงฝนตกอย่างหนัก คุณแต้เริ่มสังเกตที่พื้นห้องน้ำว่ามีน้ำนอง คาดว่าน้ำฝนคงไหลเข้ามา จนจัดการธุระเสร็จก็เริ่มแต่งตัวและหันไปกดชักโครก “เชี้ยแล้ว” แทนที่น้ำจะไหลลงกลับค่อย ๆ เอ่อขึ้นพร้อมกับก้อนสีดำมะเมื่อม จึงรีบผิดฝาชักโครกทันทีแล้วพยายามกดน้ำอีกครั้ง เสียงเงียบไปเพียงไม่กี่วินาที หลังจากนั้นก็บูมเป็นโกโก้ครั้นซ์เลย โกโก้ครั้นช์แบบเปียก ๆ เละๆ ด้วย

…  ก็คงไม่ต้องสรุปนะว่า ความสยองคือ ส้วมทะลักแบบถล่มทลาย ขอแนะนำว่า ฝนตกหนัก ๆ น้ำท่วม ให้ระวังการเข้าส้วมที่อยู่ต่ำกว่าพื้นถนน เพราะหากระบบระบายน้ำไม่ดี หรือมีปัญหา เรื่องขวัญผวาก็อาจเปิดขึ้นได้ …

 

ขวัญผวาวันฝนตก เรื่องที่ ๒

นอกจากอาการ “ปวดขี้” ที่มักมาพร้อมกับวันฝนตกแล้ว สิ่งที่มาคู่กับน้ำท่วมเป็นประจำก็คือ สัตว์และแมลงต่าง ๆ ที่ปกติแล้วจะใช้ชีวิตอยู่ตามท่อระบายน้ำ เรื่องต่อไปนี้ คุณปารูณา หรือ คุณเอ๋อ (นามสมมติ) ส่งมาเล่าให้ทุกท่านได้อ่านกัน

เมื่อสมัยวัยรุ่น เอ๋อได้ไปเที่ยวในเมืองกับเพื่อน ณ คอมมิวนิตี้มอลล์เก่าแก่แห่งหนึ่ง วันนั้นฝนตกหนักมาก ตกจนน้ำท่วมเกือบถึงเข่า รถยนต์ทั่วไปไม่สามารถวิ่งได้เหลือแต่รถประจำทาง

ด้วยเวลาที่ล่วงเลยมามืดค่ำแล้ว แถมฝนก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด คงไม่พ้นที่จะต้องลุยน้ำไปยังป้ายรถเมล์ที่ใกล้ที่สุด  เอ๋อกับเพื่อน ๆ ตัดสินใจเดินแถวตอนเรียงหนึ่งลุยน้ำไป ระยะทางแค่ร้อยกว่าเมตร

ระหว่างเดินลุยน้ำไป เอ๋อสังเกตเห็นแมลงสาบเกาะอยู่บนหลังเพื่อน ด้วยความตกใจจึงเอากระเป๋าปัดอย่างแรง แมลงสาบกระเด็นไปกำลังจะตกน้ำ ทันใดนั้นเจ้าแมลงสาบก็กางปีกบิน บินอย่างไร้ทิศทางเพียงเพื่อจะหาที่เกาะ

ท่ามกลางความหวาดหวั่นของ ที่หลังของเพื่อนยังมีแมลงสาบเกาะอีกหลายตัว โดยพยายามเกาะนิ่ง ๆ เหมือนจะให้เพื่อนพาหนีน้ำ เอ๋อได้หันกลับมาจะบอกกับเพื่อนที่ตามมาว่าให้ช่วยกันปัด แต่พอเห็นสีหน้าอันประหวั่นพรั่นพรึงของเพื่อนที่ลุยน้ำตามมาเท่านั้น เอ๋อก็รู้ทันทีว่า บนหลังของเอ๋อก็มีแมลงสาบอยู่หลายตัวเช่นกัน

… ก็ต้องบอกว่า สัตว์และแมลงต่าง ๆ ก็กลัวน้ำท่วมเหมือนกับคนเรานี่แหละ เขาก็แค่อยากจะหนีน้ำท่วมเท่านั้นเอง เพียงแต่เราก็ไม่เคยรู้ว่าในท่อระบายน้ำจะมีพวกเขาอยู่มากขนาดนี้ ถ้าทุกคนช่วยกันรักษาความสะอาด ไม่ทิ้งเศษอาหารลงท่อ พวกเขาก็คงไม่เยอะขนาดนี้ …

 

ขวัญผวาวันฝนตก เรื่องที่ ๓

สำหรับเรื่องนี้ เป็นประสบการณ์จริงของ อดีตผู้ว่าฯ ท่านหนึ่งครับ ท่านเล่าว่า

สมัยที่ผมเป็นผู้ว่าฯ มีบ่ายวันหนึ่งฝนตกหนักมาก ผมมั่นใจว่าจะสามารถจัดการกับปัญหาน้ำท่วมได้ เพราะว่าผมได้สร้างอุโมงค์ยักษ์ระบายน้ำไว้แล้ว

ผมได้สั่งให้ลูกน้องเชิญนักข่าวไปที่กลางเมือง ตรงจุดที่น้ำจะท่วมมากที่สุด เพื่อแสดงประสิทธิภาพของอุโมงค์ยักษ์ให้เห็น พอนักข่าวพร้อมฝนก็ตกหนักมากปรากฏว่าน้ำก็เริ่มท่วม และท่วมสูงขึ้นเรื่อย ๆ ผมถามลูกน้องว่า เรามีอุโมงค์ยักษ์แล้วทำไมยังท่วมไม่หยุด

ลูกน้องตอบมาว่า “อุโมงค์ยักษ์ของเรายังก่อสร้างไม่เสร็จครับ” ผมถามต่อว่าแล้ววันนั้นที่ผมไปเปิดล่ะ ลูกน้องก็ตอบมาว่า “อันนั้นอุโมงค์ดัมมี่ครับ” 

… นั่นคงไม่ใช่เรื่องขวัญผวาของอดีตผู้ว่าฯ เพียงคนเดียวแล้วล่ะครับ …